สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

.

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 35.50 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 3,417.30 ดอลลาร์/ออนซ์

.

นักวิเคราะห์จากบริษัท High Ridge Futures กล่าวว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ส่วนการที่ราคาทองคำปรับตัวลงในวันจันทร์ เกิดจากการที่นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้น

.

นักลงทุนยังคงคิดตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยรายงานระบุว่าอิหร่านเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กดดันให้อิสราเอลหยุดยิง ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะยุติการสู้รบทางอากาศที่ดำเนินมาสี่วันแล้ว ขณะที่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังอยู่บน "เส้นทางสู่ชัยชนะ"

.

ทั้งนี้ เนทันยาฮูกล่าวว่า กองทัพอากาศอิสราเอลสามารถควบคุมน่านฟ้าเหนือกรุงเตหะรานของอิหร่านได้แล้ว และอิสราเอลกำลังบรรลุเป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่ การกำจัดภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากอิหร่าน และการกำจัดภัยคุกคามจากขีปนาวุธ

.

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้

.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

ที่มา : https://www.ryt9.com