“ทรัมป์” จ่อเก็บภาษี ทองคำสวิตฯ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้เก็บ “ภาษีนำเข้าทองคำแท่ง” สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดทองคำโลก และเป็นอีกหนึ่งแรงกระแทกทางการค้าแก่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งส่งออกทองคำเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และมีลูกค้ารายใหญ่เป็นสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวนี้อยู่ในคำตัดสินของสำนักงานศุลกากร และป้องกันชายแดนสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการปรับโครงสร้างการค้าโลกใหม่ โดยหลังจากประกาศ ฟิวเจอร์สทองคำในตลาดนิวยอร์กก็พุ่งขึ้น “ทำสถิติสูงสุด”
ก่อนหน้านี้ ผู้ค้าทองคำคาดว่า ทองคำแท่งขนาด 1 กิโลกรัม หรือ 100 ออนซ์ จะได้รับการยกเว้นจากภาษีทรัมป์ รวมถึงอัตราภาษีช็อกโลก 39% ต่อสวิตเซอร์แลนด์ แต่การตัดสินของ CBP กลับจัดให้สินค้าดังกล่าวอยู่ในรหัสศุลกากรที่ต้องเสียภาษีนำเข้า
ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจหลายครั้ง ด้วยการกำหนดโครงสร้างภาษีนำเข้าของสหรัฐที่ซับซ้อน และหลากหลาย ออกมาในอัตราที่แตกต่างกัน และด้วยเหตุผลต่างกันไป เมื่อเดือนที่แล้ว สัญญาล่วงหน้าทองแดง ในสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก หลังทำเนียบขาวประกาศอย่างไม่คาดคิดว่า จะยกเว้นการเก็บภาษี 50% กับโลหะทองแดงที่ผ่านการถลุง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด
ยังไม่ชัดเจนว่า ทองคำแท่งประเภทอื่น เช่น ทองคำแท่ง 400 ออนซ์ ซึ่งเป็นประเภทที่มีการซื้อขายมากที่สุดในลอนดอน จะต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ หากไม่ต้องเสีย ภาระภาษีอาจเลี่ยงได้ด้วยการส่งทองประเภทนั้นไปยังสหรัฐ แล้วนำมาหลอมใหม่เป็นทองคำแท่งขนาด 1 กิโลกรัม